1.จ่ายเงินแบบ DIGITAL PAYMENT – จะอยู่ที่ไหนยังไง ก็สามารถรับรู้ใบแจ้งหนี้ได้แบบ Real time แถมยังจ่ายผ่าน QR CODE พร้อมรับใบเสร็จได้ทันที ง๊ายยยยง่ายอะไรขนาดนี้เนี่ยยย!!
1.หาสิ่งที่คุณและเขามีร่วมกัน ถึงแม้คุณจะคิดว่าคุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนนั้นเลย แต่จริงๆ แล้วคุณรู้มากกว่าที่คุณคิด ก็คุณและเขาอยู่ในห้องเดียวกันนี่ไงละ ดังนั้นคุณสามารถถามเขาได้ว่า “So what brings you here?” หรือสมมุติว่าคุณอยู่ที่งานปาร์ตี้ของ Bob เพื่อนคุณ คุณสามารถถามคนๆ นั้นว่า “How do you know Bob?”
หลังจากนั้น ถ้าคู่สนทนาของคุณไม่กล่าวอะไรต่อมากไปกว่าคำว่า “thank you,” คุณสามารถถามต่อไปว่า “Where did you get it?” หรือ “What’s it made out of?” หรือแม้แต่ “Was it expensive?” คำถามเหล่านี้ดีตรงที่มันเป็นการเปิดโอกาสให้คนๆ นั้นบอกเล่าสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเองให้คุณฟัง
3.ถามคำถามเกี่ยวกับเขา คนส่วนใหญ่ต่างก็มีการมีงานทำกันทั้งนั้น ฉะนั้นคุณสามารถถามเขาว่า “So what do you do for a living?” หรือคุณอาจถามไปว่า “Where are you from originally?” ซึ่งหมายถึงคุณต้องการรู้ว่า เขาเกิดที่ไหน คำถามเป็นสิ่งที่ช่วยให้การสนทนาเป็นไปได้ง่ายขึ้น ถ้าคู่สนทนาของคุณเป็นคนสุภาพ เขาจะถามคุณกลับ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คุณพูดเกี่ยวกับตัวคุณเองด้วย
4.แนะนำตัวเอง อย่างเพียงแค่กล่าวว่า “Hi, my name is John.” ให้เติมรายละเอียดเข้าไปด้วยเช่น “Hi, my name is John. I’m a friend of Bob’s from high school. We use to have the same math class together.” นี่เป็นวิธีดึงความสนใจจากคู่สนทนาและกระตุ้นให้เขาถามเกี่ยวกับคุณหรือเสนอ ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาเองให้คุณทราบเป็นการสนองกลับ
5.แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบางอย่าง คุณไม่จำเป็นต้องถามเขาเป็นการส่วนตัว แต่คุณสามารถดึงความสนใจจากเขาโดยการกล่าวลอยๆ อย่างเช่น “This is a great party” หรือ “What a lovely house this is.” ถึงแม้ว่างานปาร์ตี้หรือบ้านหลังนี้จะไม่ใช่ของเขา แต่ประโยคข้างต้นเป็นหัวข้อง่ายๆ ที่ดีในการเปิดโอกาสให้คนแสดงความคิดเห็นของเขา อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เหล่านี้ใช้ได้ดีเพราะคุณและคนแปลกหน้านี้มีบางสิ่งร่วมกัน นั่นก็คือพวกคุณกำลังคุยกันยังไงล่ะ